ขอนแก่น – ชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดขอนแก่น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ต่างรอคอยความช่วยเหลือจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ของรัฐบาล ที่เตรียมแจกเงินสนับสนุนจำนวน 10,000 บาทผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต แม้ว่าจะมีความท้าทายสำหรับบางส่วนที่ยังคงประสบปัญหาในการลงทะเบียนเนื่องจากขาดสมาร์ทโฟนหรือความรู้ด้านเทคโนโลยี
รายละเอียดโครงการ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟส 2 จะเริ่มต้นที่กลุ่มผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 3-4 ล้านคนทั่วประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าการแจกเงินจะเริ่มได้ไม่เกินช่วงตรุษจีน หรือปลายเดือนมกราคม 2568
สำหรับประชาชนในกลุ่มที่เหลือ จะขึ้นอยู่กับความพร้อมของระบบ และอาจเริ่มแจกได้ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2568
เสียงสะท้อนจากชาวบ้าน
นางบุญช่วย เวฬุวนาทร ชาวบ้านบ้านหนองบัวทอง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ลงทะเบียนโครงการแล้ว กล่าวว่า หากได้รับเงินจำนวนนี้ จะนำไปใช้จ่ายในครัวเรือน เช่น ซื้อของใช้จำเป็น พร้อมชี้ว่าชาวบ้านในพื้นที่ของตนจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีสมาร์ทโฟนหรือไม่เข้าใจขั้นตอนการลงทะเบียน ทำให้สิทธิ์ที่พวกเขาควรได้รับอาจหลุดลอยไป
ในขณะเดียวกัน นางเพิ่ม แก้วใส ชาวบ้านในพื้นที่เดียวกันที่มีอายุ 76 ปี กล่าวว่า ตนไม่เคยได้รับสิทธิ์ใดๆ จากรัฐมาก่อน เนื่องจากไม่มีสมาร์ทโฟน และไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว หากได้รับเงินในเฟส 2 จะนำไปใช้จ่ายหนี้สินและประทังชีวิต หลังประสบภาวะขาดทุนจากการทำนาในปีที่ผ่านมา
ปัญหาและข้อเสนอ
ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและความรู้ด้านเทคโนโลยี ยังคงเป็นกลุ่มที่ประสบปัญหาอย่างมากกับการเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ ที่รัฐจัดให้ ชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทีมงานลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือในขั้นตอนการลงทะเบียน ลดความยุ่งยากในการเดินทางไปธนาคาร และช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ทั่วถึง
ข้อสรุป
แม้โครงการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟส 2 จะมีเป้าหมายช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง แต่ยังคงมีอุปสรรคในด้านการเข้าถึงของผู้ที่ขาดแคลนเทคโนโลยีและข้อมูล รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการสนับสนุนประชาชนกลุ่มนี้ เพื่อให้พวกเขาได้รับสิทธิ์อย่างทั่วถึงและสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน
แหล่งที่มา: MGR ONLINE
